80 Hand brew bar x Pani sandwich and bagel บาร์สุดชิวเพราะบาริสต้ามีเพียงคนเดียว ย่านอุดมสุข

สวัสดีค่ะ วันนี้เรากกลับมาพร้อมกับคาเฟ่ที่แตกต่างออกไปจากที่เคยไปรีวิวมา นั้นก็คือ คาเฟ่แห่งนี้เป็นคาเฟ่สุดชิวที่มีบาริสต้าคนเดียว เพื่อนๆอาจจะคิดว่ามันแตกต่างจากที่อื่นยังไง คาเฟ่บ้างแห่งบาริสต้าคนเดียวก็มี มาๆเราจะบอกให้ว่าความแตกต่างของคาเฟ่แห่งนี้กับที่อื่นๆต่างกันยังไง

ก่อนอื่นเลยคาเฟ่แห่งนี้มีชื่อว่า 80 Hand brew bar x Pani sandwich and bagel เป็นคาเฟ่ที่ขึ้นชื่อเรื่องเบเกิ้ลมากๆ เพราะอบสดๆชิ้นต่อชิ้น และไม่ใช่แค่เบเกิ้ลที่อบชิ้นต่อชิ้น กาแฟของที่คาเฟ่แห่งนี้ รสชาติก็ขึ้นอยู่กับบาริสต้าชงให้ลูกค้าแก้วต่อแก้วเช่นกัน เลยทำให้คาเฟ่แห่งนี้ขึ้นชื่อว่าเป็น slow bar นั้นเอง เอาหล่ะเกริ่นมายาวมากแล้วเรามาดูหน้าตาของคาเฟ่แห่งนี้กันเลยดีกว่า

Characteristics

80 Hand brew bar x Pani sandwich and bagel ตั้งอยู่ในซอย อุดมสุข 24 เลี้ยวเข้าซอยมา คาเฟ่จะอยู่ทางขวามือ มีที่จอดรถบริการกว้างขว้าง การใช้โทนสีตกแต่งของคาเฟ่แห่งนี้จะเน้นเป็นโทนสีไม้ เขียว และน้ำเงิน ทำให้คาเฟ่แห่งนี้ง่ายต่อการจดจำมากค่ะ ด้วยเอกลักษณ์การใช้สีที่โดดเด่น โซนโต๊ะนั่งก็จะแบ่งเป็น 2 โซน คือ ห้องแอร์ และ open-air สาเหตุที่มีโซนข้างนอกด้วยนั้น ก็เพราะว่าทางร้านเป็นคาเฟ่แบบ Pet friendly ที่เพื่อนๆสามารถพาสัตว์เลี้ยงมายังคาเฟ่ได้ด้วยนั้นเอง

ในส่วนของที่นั่งด้านในห้องแอร์ก็จะมีโต๊ะไม่มากเท่าไหร่จะเน้นเป็นนั่งบาร์ หรือ โต๊ะนั่งม้ายาวเอาไว้นั่งรอกาแฟ หรือ ถ่ายรูป สำหรับลูกค้าที่มาสั่งกลับบ้านค่ะ

การตกแต่งภายในห้องแอร์ ก็จะโปร่งโล่งด้วยแสงธรรมชาติมากๆ จากภาพที่เห็นก็คือ คาเฟ่แห่งนี้มีบาริสต้าคนเดียว ที่ทั้งชงกาแฟ รับออเดอร์ลูกค้า และเสิร์ฟอาหารค่ะ

Tasty bagel

หลังจากถ่ายรูปโต๊ะข้างนอกเสร็จแล้ว เราก็เดินเข้ามาในโซนห้องแอร์ สั่งอาหาร กับ เครื่องดื่ม ในส่วนขอเมนูอาหารก็ตามชื่อร้านเลยค่ะ จะเน้นเป็นเมนู bagel เราเลยเลือกสั่ง salmon ebi (tasmanian salmon) และ กาแฟลาเต้ หวานน้อย ในส่วนของเมนูเครื่องดื่มจะมีเป็น Coffee – Non coffee เท่านั้นค่ะ อ๋อลืมบอกไปว่าคาเฟ่ก็ยังมีเค้ก และ เบเกอรี่อื่นๆด้วยนะคะ หลังจากสั่งอาหารเสร็จแล้ว เราก็เลือกที่จะออกมานั่งโซนด้านนอกเพื่อรออาหาร รอได้ 10 นาที กาแฟก็เสร็จเรียบร้อยค่ะ

สิ่งแรกที่สังเกตได้ชัดเลย คาเฟ่ที่นี้ใช้น้ำแข็งก้อนใหญ่ 2 ก้อน ใหญ่ใส่ในแก้วกาแฟ ส่วนตัวคิดว่าน้ำแข็งก้อนใหญ่ละลายช้า จะทำให้ไม่เสียรสชาติกาฟมาก หลังจากที่ดื่มก็เป็นอย่างนั้นจริงๆค่ะ กาแฟเข็มข้นหวานน้อยถูกใจมาก หอมกลิ่นกาแฟสุดๆ เชื่อแล้วว่าบาริสต้าชงแบบพิถีพิถัน ใส่ใจในรายละเอียดการชงกาแฟขนาดไหน หลังจากนั้น 5 นาที สิ่งที่เรารอคอยก็มาเสิร์ฟค่ะ นั้นก็คือ salmon ebi (tasmanian salmon)

salmon ebi (tasmanian salmon) จะถูกเสิร์ฟมาในกล่องกระดาษพร้อมข้อความน่ารักจากทางร้าน สาเหตุที่ใส่กล่องมาแบบนี้ เพื่อสะดวกต่อลูกค้ากินไม่หมดและสามารถนำกลับบ้านได้เลยค่ะ สะดวกสบายมากๆ จากที่เห็นในรูปว่าชิ้นใหญ่แล้วของจริงชิ้นใหญ่กว่า และใช่ค่ะ เรากินไม่หมดได้เอากลับมากินต่อที่บ้านอีก เอาหล่ะจะเริ่มเข้าสู่รสชาติขอเบเกิ้ลชิ้นนี้แล้ว จะเห็นได้ว่าร้านใส่ไข่กุ้งโรยหน้าให้เยอะมากแบบไม่หวงเลย แต่ที่เยอะกว่ากุ้งก็คือไส้ข้างในค่ะ เมื่อหยิบเบเกิ้ลออกมาครึ่งนึงจะเห็นไส้ภายในจะมีไข่ต้ม ซอส และ แซลมอน อยากบอกว่าร้านให้แซลมอนเยอะมากๆคุ้มสุดๆเลยค่ะ รสชาติของคำแรกที่ทานเข้าไปก็คือ แป้งกรอบเข้ากับซอสไข่ต้มและแซลมอนบวกกับตักไข่กุ้งตามไปทำให้มี texture เพิ่มขึ้นไปอีก อร่อยสมกับทางร้านเคลมจริงๆค่ะ อยากให้เพื่อนๆมาลองกันนะคะ

Self-service

เนื่องจากเราออกมานั่งโซนด้านนอก ตอนบาริสต้าเดินมาเสิร์ฟกาแฟ ก็แจ้งว่าจุดไหนที่วางถังขยะไว้บ้าง ซึ่งก็ทำให้เข้าใจได้เลยว่า หลังจากรับประทานเสร็จแล้วก็ต้องนำไปทิ้งในถังขยะด้วย

Impresstion

ทานอาหารได้สักพักนึงก็รู้สึกอิ่ม เราเลยตัดสินใจเดินชมรอบๆร้านอีกครั้ง เนื่องจากวันที่เราไปเป็นวันธรรมดาลูกค้าก็เลยไม่ค่อยเยอะมาก แต่บริการเดลิเวรี่ก็เข้ามาเรื่อยๆ เราก็เลยขอเดินสำรวจร้านแล้วก็ถ่ายรูปมุมอื่นๆมาให้เพื่อนๆได้ดูกัน

สุดท้ายแล้ว เราชอบคาเฟ่ที่นี้มากค่ะ ประทับใจในรสชาติอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการบริการของทางร้านด้วย ถ้าเพื่อนๆคนไหนชอบคาเฟ่แนวใหม่ๆก็ลองมากันได้นะคะ วันนี้เราก็ขอจบการรีวิวเพียงเท่านี้ ไว้กลับมาเจอกันใหม่อีกครั้งหน้านะคะ บ๊ายบายยยย.