The Wood Land Cafe คาเฟ่ที่ยกป่ามาไว้ใจกลางเมืองย่านอ่อนนุช

สวัสดีค่ะเพื่อนๆ วันนี้เรากลับมารีวิวคาเฟ่อีกครั้งแล้วนะคะ วันนี้เรามีคาเฟ่ที่สงบ ร่มย์รื่น เหมาะสำหรับพักผ่อน คลายเครียดในวันหยุดสุดสัปดาห์มาแนะนำเพื่อนๆกันค่ะ คาเฟ่แห่งนี้มีชื่อว่า The wood land ดูจากชื่อแล้ว เพื่อนๆก็คงจะนึกออกใช่ไหมคะ ว่าคาเฟ่จะเป็นลักษณะแบบไหน งั้นเรามาเริ่มชมภาพที่เราเก็บมาฝากเพื่อนๆกันค่ะ

เริ่มจากทางเข้าของร้านก่อนเลย เมื่อมาถึงทางเข้าร้าน ด้านหน้าจะก่อด้วยกำแพงก้อนปูนสูงไม่สามารถมองเห็นตัวร้านได้เลย ต้องเดินเข้าไปเท่านั้น เมื่อเลี้ยวเดินผ่านทางเข้าก็จะเจอกับต้นไม้สีเขียวขนาดใหญ่ตรงด้านขวามือจะเป็นซุ้มสั่งเครื่องดื่มเล็กๆ ถัดไปข้างๆก็จะเป็นซุ้มสั่งอาหารและขนมค่ะ

เมื่อสั่งเครื่องดื่มเสร็จแล้ว ทางร้านก็จะให้ Pagger มา 1 อันสำหรับมารับกาแฟ เสร็จจากซุ้มกาแฟ เราก็เดินมาสั่งอาหารที่ซุ้มข้างๆกัน เมื่อสั่งอาหารเสร็จ พนักงานก็จะให้ Pagger มาอีก 1อัน เพื่อมารับอาหารที่ซุ้ม พอสั่งอาหารและเครื่องดื่มเสร็ขแล้ว เราก็เดินไปหาโต๊ะนั่งรออาหารกัน

ลืมบอกไปว่าคาเฟ่ที่นี้จะแบ่งที่นั่งออกเป็น 2 โซน คือ ข้างนอก และ ห้องแอร์ วันที่เราไปเป็นตอนกลางวัน เราเลยเลือกที่จะนั่งห้องแอร์ ภายในห้องแอร์จะมีโต๊ะประมาณ 7-8 โต๊ะ โดยแต่ละโต๊ะจะมีเก้าอีกตัวละ 2-4 ตัว เพื่อนๆสามารถเลือกนั่งได้ตามใจชอบเลยค่ะ แต่เราเลือกที่จะนั่งข้างกระจก เพราะได้เห็นบันได้ต้นไม้และบรรยากาศโดยรวมของร้านค่ะ

นั่งรอประมาณ 10 นาที Pagger เครื่องดื่มก็ดังแจ้งเตือนค่ะ เราเลยเดินไปรับเครื่องดื่มที่ซุ้ม มาดูกันว่าเราสั่งเมนูอะไร

เมื่อเดินมาถึงซุ้ม สามารถรับเครื่องดื่มที่ด้านข้างซุ้มได้เลยค่ะ คาเฟ่ที่นี้จะเน้นบริการตัวเองนะคะ

และเมนูเครื่องดื่มที่เราสั่งก็คือ Iced Caramel Macchiato ลืมแจ้งพนักว่าหวานน้อย แต่ไม่เป็นไรนานๆเราจะดื่มกาแฟ

นั่งอีกสักพัก Pagger อาหารก็ดังค่ะ มาดูกันว่าอาหารที่เราสั่งนั้นคืออะไร

เรามาเริ่มรีวิวกันเลยค่ะ ก่อนอื่นเราดื่ม Iced Caramel Macchiato ก่อนเลย รสชาติไม่หวานมาก หอมกลิ่นเมล็ดกาแฟมากค่ะ กลมกล่อมดีค่ะ กินได้เรื่อยๆเลย ส่วน Egg Benadict & Bacon Croffle อร่อยค่ะ เบคอนมีความเค็มกรอบตัดกับรสชาติของชีทที่ท็อปมาบนไข่ลวก โดยรวมแล้วรสชาติดีค่ะ ในส่วนของขนาดอาหารนั้น ค่อนข้างใหญ่ค่ะ ทานคนเดียวอาจจะไม่หมด จานนึงสามารถทานได้ 2 คนเลยค่ะ นอกจากเหนือจากเมนูที่เราสั่งแล้ว ทางร้านเค้าก็มีเครื่องดื่ม non-coffee และเบเกอรี่ค่ะ ดูตามเมนูด้านล่างได้เลย

วันที่เรามาคาเฟ่ เรามาตอนกลางวัน แต่เราคิดว่าถ้ามาตอนเย็น บรรยากาศที่แห่งนี้ต้องดีมากแน่ๆ เพราะข้างนอกทางร้านทำเป็นเค้าเตอร์ 2 ฝั่ง เพื่อให้ลูกค้ามานั่งถ่ายรูปกัน นอกจากมีเค้าเตอร์แล้ว ทางร้านยังมีเบาะรองนั่งที่พื้นพร้อมโต๊ะเล็กบริการด้วย โดยโต๊ะเบาะนี้มีรอบร้านเลยค่ะ นึกๆแล้วถ้าพระอาทิตย์ตกดินแล้วทางร้านเปิดไฟ คงต้องโรแมนติกมากแน่ๆ ยังไงถ้าใครอยากออกเดท เราว่าร้านนี้ก็เหมาะนะ นอกจากนี้แล้ว คาเฟ่แห่งนี้ยังเป็น Pet friendly ด้วยนะ เพื่อนๆสามารถพาเหล่าสัตว์เลี้ยงมาเล่นในคาเฟ่แห่งนี้ได้ แต่ว่าช่วยรักษาความสะอาดกัยด้วยนะคะ มาดูบรรยากาศโดยรอบกันดีกว่าค่ะ

เป็นยังไงบ้างคะ เห็นภาพรวมของคาเฟ่แห่งนี้แล้ว นี้เป็นเพียงแค่ส่วนนึงของคาเฟ่นะคะ ถ้าใครอยากเห็นทั้งหมดต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองค่ะ การเดินทางมายังคาเฟ่แห่งนี้ก็ง่ายมาก สามารถเดินทางมาได้ทั้งรถไฟฟ้า และ รถยนต์ส่วนตัว ถ้าใครมาโดยรถไฟฟ้า สามารถมาลงได้ที่ สถานี อ่อนนุช ทางออกฝั่งเดียวกับโลตัสอ่อนนุช เดินเข้าซอยสุขุมวิท 52 ประมาณ 50 เมตรก็ถึงร้านแล้วค่ะ ส่วนใครที่เดินทางมาโดยรถส่ววนตัวก็สามารถเปิด Google map พิมพ์ชื่อร้านได้เลยค่ะ เวลาเปิด วันธรรมดา 9.00-18.30 น. เสาร์-อาทิตย์ 8.30-19.30 น.(หยุดวันอังคาร)

สุดท้ายแล้วเพื่อนๆคนไหนอยากให้เราไปรีวิวคาเฟ่ที่ไหนสามารถทิ้งคอมเม้นต์ไว้ที่ด้านล่างได้เลยนะคะ วันนี้เราขอจบการรีวิวคาเฟ่เพียงเท่านี้ค่ะ